งานทำความสะอาดหลังตกแต่ง

งานทำความสะอาดหลังตกแต่ง

 

 

     หลักจากที่เราได้มีการซ่อมแซมหรือตกแต่งบ้านพักอาศัย สำนักงาน ออฟฟิต หรือสถานที่ต่างๆ มักจะประสบปัญญาในด้านของเรื่องการเก็บของ เศษสิ่งก่อสร้างที่นำมาต่อเติมซ่อมแซม อาจจำมีบางจุดที่เราไม่สามารถทำความสะอาจหรือเก็บให้เป็นระเบียบได้ทุกจุด โดย บริษัท เอ.เอ็น.จี.แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด มีทีมงานที่มากความสามารถ เพื่อทำความสะอาดอาคาร สำนักงาน บ้านที่พักอาศัย ห้องอาหาร สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมคลังสินค้า ทำความสะอาดหลังรับเหมาก่อสร้าง หรือหลังตกแต่ง โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในด้านการทำความสะอาดหลังตกแต่งที่ท่านต้องวางใจ เพื่อให้งานหรือสถานที่ทำงานพร้อมใช้งาน ลดความยุ่งยากให้กับท่านอย่างแน่นอน

 

 

งานทำความสะอาดหลังตกแต่ง

 

 

 

 

 

  รับทำความสะอาด           บริษัท เอ.เอ็น.จี.แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด บริการทำความสะอาดอย่างครบวงจร บริษัทรับทำความสะอาด บริหารงานโดยผู้บริหารและทีมงาน ที่มากด้วยประสบการณ์มากว่า 20 ปี ในงานด้านการทำความสะอาด และงานบริการ รวมทั้งมีส่วนสนับสนุนในความสำเร็จของหลายองค์กรทั้งด้านธุรกิจและทางสังคมด้วยประสบการณ์ ในธุรกิจบริการทำความสะอาด เราได้รับความไว้วางใจให้ดูแลความสะอาดอาคาร สำนักงาน และสถานประกอบการ อาทิ เช่น โรงแรม คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนท์ โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์กระจายสินค้า โชว์รูมแสดงสินค้า ศูนย์บริการรถยนต์ หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งงานทำความสะอาดแบบครั้งคราว

 

 

 

 

 

สนใจติดต่อได้ที่ บริษัท เอ.เอ็น.จี.แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด

ang.pagesthai.com

www.janitor-cleaning.com

www.ang.co.th

 

 

------------------------------------------------------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง

• มาทำความรู้จักกับ บริษัทรับทำความสะอาด

• บริการทำความสะอาดที่สูง

• ลักษณะของการจ้างเหมางานบริการพนักงานทำความสะอาด 

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ชนิดใดบ้างที่นิยมในวงการอุตสาหกรรม

       à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¹ƒà¸™à¸¢à¸¸à¸„ปัจจุบันแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับวงการอุตสาหกรรมในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากแขนกลหุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติโดยการเขียนโปรแกรมให้เคลื่อนที่ได้อย่างน้อย 3 แกนหรือมากกว่า ซึ่งแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) สามารถออกแบบให้ยึดอยู่กับที่หรือย้ายตำแหน่งไปมาได้ตามความเหมาะสมของประเภทงานที่จะใช้ในงานอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยการแบ่งชนิดของหุ่นยนต์จะแบ่งตามลักษณะรูปทรงของพื้นที่ทำงาน (Envelope Geometric) ของจุดต่อ (Joint) ของหุ่นยนต์สามารถแบ่งได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. ชนิด Revolute (R) เป็นการหมุนรอบแกน (Rotary) 2.Prismatic (P) เป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น (Linear motion) และเมื่อนำจุดต่อของหุ่นยนต์ทั้งสองแบบมาต่อเข้าด้วยกันอย่างน้อย 3 แกนหลักจะได้พื้นที่ทำงาน ( Work envelope) ที่มีลักษณะแตกต่างกันไปก็จะได้ประเภทแขนกลหุ่นยนต์ต่างๆ ใช้ในวงการอุตสาหกรรม

 

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot)

 

 

ประเภทของแขนกลหุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรม ได้แก่


1. Cartesian (Gantry) Robot แกนทั้ง 3 ของแขนกลหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่เป็นแบบเชิงเส้น (Prismatic) ถ้าโครงสร้างมีลักษณะคล้าย Overhead Crane จะเรียกว่าเป็นหุ่นยนต์ชนิด Gantry แต่ถ้าหุ่นยนต์ไม่มีขาตั้งหรือขาเป็นแบบอื่น เรียกว่า ชนิด Cartesian

ข้อดี

1. เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงทั้ง 3 มิติ
2. การเคลื่อนที่สามารถทำความเข้าใจง่าย
3. มีส่วนประกอบง่ายๆ
4. โครงสร้างแข็งแรงตลอดการเคลื่อนที่


ข้อเสีย

1. ต้องการพื้นที่ติดตั้งมาก
2. บริเวณที่หุ่นยนต์เข้าไปทำงานได้ จะเล็กกว่าขนาดของตัวหุ่นยนต์
3. ไม่สามารถเข้าถึงวัตถุจากทิศทางข้างใต้ได้
4. แกนแบบเชิงเส้นจะ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลวได้ยาก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงตลอดแนวการเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงเหมาะกับงานเคลื่อนย้ายของหนักๆ หรือเรียกว่างาน Pick-and-Place เช่น ใช้โหลดชิ้นงานเข้าเครื่องจักร (Machine loading) ใช้จัดเก็บชิ้นงาน (Stacking) นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในงานประกอบ (Assembly) ที่ไม่ต้องการเข้าถึงในลักษณะที่มีมุมหมุน เช่น ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และงาน Test ต่างๆ

2. Cylindrical Robot หุ่นยนต์ประเภทนี้จะมีแกนที่ 2 (ไหล่) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) เป็นแบบ Prismatic ส่วนแกนที่ 1 (เอว) จะเป็นแบบหมุน (Revolute) ทำให้การเคลื่อนที่ได้พื้นที่การทำงานเป็นรูปทรงกระบอก

 à¸‚้อดี

1. มีส่วนประกอบไม่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
3. สามารถเข้าถึงเครื่องจักรที่มีการเปิด – ปิด หรือเข้าไปในบริเวณที่เป็นช่องหรือโพรงได้ง่าย (Loading) เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าเครื่อง CNC


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. แกนที่เป็นเชิงเส้นมีความยุ่งยากในการ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลว


การประยุกต์ใช้งาน

โดยทั่วไปจะใช้ในการหยิบยกชิ้นงาน (Pick-and-Place) หรือป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องจักร เพราะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกบริเวณที่เป็นช่องโพรงเล็กๆ ได้สะดวก

3. Spherical Robot (Polar) มีสองแกนที่เคลื่อนในลักษณะการหมุน (Revolute Joint) คือแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 2 (ไหล่) ส่วนแกนที่ 3 (ข้อศอก) จะเป็นลักษณะของการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง 

ข้อดี

1. มีปริมาตรการทำงานมากขึ้นเนื่องจากการหมุนของแกนที่ 2 (ไหล่)
2. สามารถที่จะก้มลงมาจับชิ้นงานบนพื้นได้สะดวก


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) และส่วนประกอบ ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมมีความซับซ้อนขึ้น


การประยุกต์ใช้งาน

ใช้ในงานที่มีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (Vertical) เพียงเล็กน้อย เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าออกจากเครื่องปั้ม (Press) หรืออาจจะใช้งานเชื่อมจุด (Spot Welding)

 

 à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์


4. SCARA Robot จะมีลักษณะแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) หมุนรอบแกนแนวตั้ง และแกนที่ 2 จะเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ขึ้นลง (Prismatic) ซึ่งหุ่นยนต์ SCARA จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วในแนวระนาบ และมีความแม่นยำสูง

ข้อดี

1. สามารถเคลื่อนที่ในแนวระนาบ และขึ้นลงได้รวดเร็ว
2. มีความแม่นยำสูง


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. ไม่สามารถหมุน (rotation)ในลักษณะมุมต่างๆได้
3. สามารถยกน้ำหนัก (Payload) ได้ไม่มากนัก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากการเคลื่อนที่ในแนวระนาบและขึ้นลงได้รวดเร็วจึงเหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องการความรวดเร็วและการเคลื่อนที่ก็ไม่ต้องการการหมุนมากนัก แต่จะไม่เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางกล (Mechanical Part) ซึ่งส่วนใหญ่การประกอบจะอาศัยการหมุน (Rotation)ในลักษณะมุมต่างๆ นอกจากนี้ SCARA Robot ยังเหมาะกับงานตรวจสอบ (Inspection) งานบรรจุภัณฑ์ (Packaging)

5. Articulated Arm ทุกแกนการเคลื่อนที่จะเป็นแบบหมุน (Revolute) รูปแบบการเคลื่อนที่จะคล้ายกับแขนคน ซึ่งจะประกอบด้วยช่วงเอว ท่อนแขนบน ท่อนแขนล่าง ข้อมือ การเคลื่อนที่ทำให้ได้พื้นที่การทำงาน 

ข้อดี

1. เนื่องจากทุกแกนจะเคลื่อนที่ในลักษณะ ของการหมุนทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเข้าไปยังจุดต่างๆ
2. บริเวณข้อต่อ (Joint) สามารถ Seal เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น หรือน้ำ ได้ง่าย
3. มีพื้นที่การทำงานมาก
4. สามารถเข้าถึงชิ้นงานทั้งจากด้านบน ด้านล่าง
5. เหมาะกับการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นชุดขับเคลื่อน


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมทำความ เข้าใจได้ยากขึ้น
3. ควบคุมให้เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Linear) ได้ยาก
4.โครงสร้างไม่มั่นคงตลอดช่วงการเคลื่อนที่ เพราะบริเวณขอบ Work Envelope ปลายแขนจะ
5. มีการสั่น ทำให้ความแม่ยำลดลง


การประยุกต์ใช้งาน

หุ่นยนต์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้กว้างขวางเพราะสามารถเข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ได้ดี เช่น งานเชื่อม Spot Welding, Path Welding, งานยกของ, งานตัด, งานทากาว, งานที่มีการเคลื่อนที่ยากๆ เช่น งานพ่นสี งาน Sealing ฯลฯ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Industrial Robot นั้นมีหลากหลายประเภท แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีประโยชน์เหมือนกัน คือ สามารถช่วยทุ่นแรงในการทำงานต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เช่น งานยกสินค้าจากสายงานการผลิต งานประกอบ งานเชื่อม งานตัด เป็นต้น

 

บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด


       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เช่น เครื่องประกอบชิ้นงาน แขนกลหุ่นยนต์ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ เครื่องตรวจสอบและทดสอบชิ้นงาน เครื่องประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติทุกชนิด โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยลูกค้าตัดสินในเรื่องการลงทุน ด้านออโตเมชั้น การติดตั้ง การฝึกอบรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง มีอะไหล่ให้เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
---------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาทำความรู้จัก บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด
รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ สุดยอดตัวช่วยสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ตอบโจทย์การประกอบชิ้นงานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วย “เครื่องประกอบชิ้นงาน” เทคโนโลยีสุดล้ำ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ชนิดใดบ้างที่นิยมในวงการอุตสาหกรรม

       à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¹ƒà¸™à¸¢à¸¸à¸„ปัจจุบันแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับวงการอุตสาหกรรมในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากแขนกลหุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติโดยการเขียนโปรแกรมให้เคลื่อนที่ได้อย่างน้อย 3 แกนหรือมากกว่า ซึ่งแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) สามารถออกแบบให้ยึดอยู่กับที่หรือย้ายตำแหน่งไปมาได้ตามความเหมาะสมของประเภทงานที่จะใช้ในงานอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยการแบ่งชนิดของหุ่นยนต์จะแบ่งตามลักษณะรูปทรงของพื้นที่ทำงาน (Envelope Geometric) ของจุดต่อ (Joint) ของหุ่นยนต์สามารถแบ่งได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. ชนิด Revolute (R) เป็นการหมุนรอบแกน (Rotary) 2.Prismatic (P) เป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น (Linear motion) และเมื่อนำจุดต่อของหุ่นยนต์ทั้งสองแบบมาต่อเข้าด้วยกันอย่างน้อย 3 แกนหลักจะได้พื้นที่ทำงาน ( Work envelope) ที่มีลักษณะแตกต่างกันไปก็จะได้ประเภทแขนกลหุ่นยนต์ต่างๆ ใช้ในวงการอุตสาหกรรม

 

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot)

 

 

ประเภทของแขนกลหุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรม ได้แก่


1. Cartesian (Gantry) Robot แกนทั้ง 3 ของแขนกลหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่เป็นแบบเชิงเส้น (Prismatic) ถ้าโครงสร้างมีลักษณะคล้าย Overhead Crane จะเรียกว่าเป็นหุ่นยนต์ชนิด Gantry แต่ถ้าหุ่นยนต์ไม่มีขาตั้งหรือขาเป็นแบบอื่น เรียกว่า ชนิด Cartesian

ข้อดี

1. เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงทั้ง 3 มิติ
2. การเคลื่อนที่สามารถทำความเข้าใจง่าย
3. มีส่วนประกอบง่ายๆ
4. โครงสร้างแข็งแรงตลอดการเคลื่อนที่


ข้อเสีย

1. ต้องการพื้นที่ติดตั้งมาก
2. บริเวณที่หุ่นยนต์เข้าไปทำงานได้ จะเล็กกว่าขนาดของตัวหุ่นยนต์
3. ไม่สามารถเข้าถึงวัตถุจากทิศทางข้างใต้ได้
4. แกนแบบเชิงเส้นจะ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลวได้ยาก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงตลอดแนวการเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงเหมาะกับงานเคลื่อนย้ายของหนักๆ หรือเรียกว่างาน Pick-and-Place เช่น ใช้โหลดชิ้นงานเข้าเครื่องจักร (Machine loading) ใช้จัดเก็บชิ้นงาน (Stacking) นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในงานประกอบ (Assembly) ที่ไม่ต้องการเข้าถึงในลักษณะที่มีมุมหมุน เช่น ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และงาน Test ต่างๆ

2. Cylindrical Robot หุ่นยนต์ประเภทนี้จะมีแกนที่ 2 (ไหล่) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) เป็นแบบ Prismatic ส่วนแกนที่ 1 (เอว) จะเป็นแบบหมุน (Revolute) ทำให้การเคลื่อนที่ได้พื้นที่การทำงานเป็นรูปทรงกระบอก

 à¸‚้อดี

1. มีส่วนประกอบไม่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
3. สามารถเข้าถึงเครื่องจักรที่มีการเปิด – ปิด หรือเข้าไปในบริเวณที่เป็นช่องหรือโพรงได้ง่าย (Loading) เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าเครื่อง CNC


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. แกนที่เป็นเชิงเส้นมีความยุ่งยากในการ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลว


การประยุกต์ใช้งาน

โดยทั่วไปจะใช้ในการหยิบยกชิ้นงาน (Pick-and-Place) หรือป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องจักร เพราะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกบริเวณที่เป็นช่องโพรงเล็กๆ ได้สะดวก

3. Spherical Robot (Polar) มีสองแกนที่เคลื่อนในลักษณะการหมุน (Revolute Joint) คือแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 2 (ไหล่) ส่วนแกนที่ 3 (ข้อศอก) จะเป็นลักษณะของการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง 

ข้อดี

1. มีปริมาตรการทำงานมากขึ้นเนื่องจากการหมุนของแกนที่ 2 (ไหล่)
2. สามารถที่จะก้มลงมาจับชิ้นงานบนพื้นได้สะดวก


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) และส่วนประกอบ ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมมีความซับซ้อนขึ้น


การประยุกต์ใช้งาน

ใช้ในงานที่มีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (Vertical) เพียงเล็กน้อย เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าออกจากเครื่องปั้ม (Press) หรืออาจจะใช้งานเชื่อมจุด (Spot Welding)

 

 à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์


4. SCARA Robot จะมีลักษณะแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) หมุนรอบแกนแนวตั้ง และแกนที่ 2 จะเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ขึ้นลง (Prismatic) ซึ่งหุ่นยนต์ SCARA จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วในแนวระนาบ และมีความแม่นยำสูง

ข้อดี

1. สามารถเคลื่อนที่ในแนวระนาบ และขึ้นลงได้รวดเร็ว
2. มีความแม่นยำสูง


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. ไม่สามารถหมุน (rotation)ในลักษณะมุมต่างๆได้
3. สามารถยกน้ำหนัก (Payload) ได้ไม่มากนัก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากการเคลื่อนที่ในแนวระนาบและขึ้นลงได้รวดเร็วจึงเหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องการความรวดเร็วและการเคลื่อนที่ก็ไม่ต้องการการหมุนมากนัก แต่จะไม่เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางกล (Mechanical Part) ซึ่งส่วนใหญ่การประกอบจะอาศัยการหมุน (Rotation)ในลักษณะมุมต่างๆ นอกจากนี้ SCARA Robot ยังเหมาะกับงานตรวจสอบ (Inspection) งานบรรจุภัณฑ์ (Packaging)

5. Articulated Arm ทุกแกนการเคลื่อนที่จะเป็นแบบหมุน (Revolute) รูปแบบการเคลื่อนที่จะคล้ายกับแขนคน ซึ่งจะประกอบด้วยช่วงเอว ท่อนแขนบน ท่อนแขนล่าง ข้อมือ การเคลื่อนที่ทำให้ได้พื้นที่การทำงาน 

ข้อดี

1. เนื่องจากทุกแกนจะเคลื่อนที่ในลักษณะ ของการหมุนทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเข้าไปยังจุดต่างๆ
2. บริเวณข้อต่อ (Joint) สามารถ Seal เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น หรือน้ำ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ ได้ง่าย
3. มีพื้นที่การทำงานมาก
4. สามารถเข้าถึงชิ้นงานทั้งจากด้านบน ด้านล่าง
5. เหมาะกับการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นชุดขับเคลื่อน


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมทำความ เข้าใจได้ยากขึ้น
3. ควบคุมให้เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Linear) ได้ยาก
4.โครงสร้างไม่มั่นคงตลอดช่วงการเคลื่อนที่ เพราะบริเวณขอบ Work Envelope ปลายแขนจะ
5. มีการสั่น ทำให้ความแม่ยำลดลง


การประยุกต์ใช้งาน

หุ่นยนต์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้กว้างขวางเพราะสามารถเข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ได้ดี เช่น งานเชื่อม Spot Welding, Path Welding, งานยกของ, งานตัด, งานทากาว, งานที่มีการเคลื่อนที่ยากๆ เช่น งานพ่นสี งาน Sealing ฯลฯ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Industrial Robot นั้นมีหลากหลายประเภท แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีประโยชน์เหมือนกัน คือ สามารถช่วยทุ่นแรงในการทำงานต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เช่น งานยกสินค้าจากสายงานการผลิต งานประกอบ งานเชื่อม งานตัด เป็นต้น

 

บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด


       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เช่น เครื่องประกอบชิ้นงาน แขนกลหุ่นยนต์ เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ เครื่องตรวจสอบและทดสอบชิ้นงาน เครื่องประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติทุกชนิด โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยลูกค้าตัดสินในเรื่องการลงทุน ด้านออโตเมชั้น การติดตั้ง การฝึกอบรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง มีอะไหล่ให้เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
---------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาทำความรู้จัก บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด
รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ สุดยอดตัวช่วยสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ตอบโจทย์การประกอบชิ้นงานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วย “เครื่องประกอบชิ้นงาน” เทคโนโลยีสุดล้ำ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ชนิดใดบ้างที่นิยมในวงการอุตสาหกรรม

       à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¹ƒà¸™à¸¢à¸¸à¸„ปัจจุบันแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับวงการอุตสาหกรรมในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากแขนกลหุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติโดยการเขียนโปรแกรมให้เคลื่อนที่ได้อย่างน้อย 3 แกนหรือมากกว่า ซึ่งแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) สามารถออกแบบให้ยึดอยู่กับที่หรือย้ายตำแหน่งไปมาได้ตามความเหมาะสมของประเภทงานที่จะใช้ในงานอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยการแบ่งชนิดของหุ่นยนต์จะแบ่งตามลักษณะรูปทรงของพื้นที่ทำงาน (Envelope Geometric) ของจุดต่อ (Joint) ของหุ่นยนต์สามารถแบ่งได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. ชนิด Revolute (R) เป็นการหมุนรอบแกน (Rotary) 2.Prismatic (P) เป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น (Linear motion) และเมื่อนำจุดต่อของหุ่นยนต์ทั้งสองแบบมาต่อเข้าด้วยกันอย่างน้อย 3 แกนหลักจะได้พื้นที่ทำงาน ( Work envelope) ที่มีลักษณะแตกต่างกันไปก็จะได้ประเภทแขนกลหุ่นยนต์ต่างๆ ใช้ในวงการอุตสาหกรรม

 

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot)

 

 

ประเภทของแขนกลหุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรม ได้แก่


1. Cartesian (Gantry) Robot แกนทั้ง 3 ของแขนกลหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่เป็นแบบเชิงเส้น (Prismatic) ถ้าโครงสร้างมีลักษณะคล้าย Overhead Crane จะเรียกว่าเป็นหุ่นยนต์ชนิด Gantry แต่ถ้าหุ่นยนต์ไม่มีขาตั้งหรือขาเป็นแบบอื่น เรียกว่า ชนิด Cartesian

ข้อดี

1. เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงทั้ง 3 มิติ
2. การเคลื่อนที่สามารถทำความเข้าใจง่าย
3. มีส่วนประกอบง่ายๆ
4. โครงสร้างแข็งแรงตลอดการเคลื่อนที่


ข้อเสีย

1. ต้องการพื้นที่ติดตั้งมาก
2. บริเวณที่หุ่นยนต์เข้าไปทำงานได้ จะเล็กกว่าขนาดของตัวหุ่นยนต์
3. ไม่สามารถเข้าถึงวัตถุจากทิศทางข้างใต้ได้
4. แกนแบบเชิงเส้นจะ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลวได้ยาก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงตลอดแนวการเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงเหมาะกับงานเคลื่อนย้ายของหนักๆ หรือเรียกว่างาน Pick-and-Place เช่น ใช้โหลดชิ้นงานเข้าเครื่องจักร (Machine loading) ใช้จัดเก็บชิ้นงาน (Stacking) นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในงานประกอบ (Assembly) ที่ไม่ต้องการเข้าถึงในลักษณะที่มีมุมหมุน เช่น ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และงาน Test ต่างๆ

2. Cylindrical Robot หุ่นยนต์ประเภทนี้จะมีแกนที่ 2 (ไหล่) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) เป็นแบบ Prismatic ส่วนแกนที่ 1 (เอว) จะเป็นแบบหมุน (Revolute) ทำให้การเคลื่อนที่ได้พื้นที่การทำงานเป็นรูปทรงกระบอก

 à¸‚้อดี

1. มีส่วนประกอบไม่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
3. สามารถเข้าถึงเครื่องจักรที่มีการเปิด – ปิด หรือเข้าไปในบริเวณที่เป็นช่องหรือโพรงได้ง่าย (Loading) เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าเครื่อง CNC


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. แกนที่เป็นเชิงเส้นมีความยุ่งยากในการ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลว


การประยุกต์ใช้งาน

โดยทั่วไปจะใช้ในการหยิบยกชิ้นงาน (Pick-and-Place) หรือป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องจักร เพราะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกบริเวณที่เป็นช่องโพรงเล็กๆ ได้สะดวก

3. Spherical Robot (Polar) มีสองแกนที่เคลื่อนในลักษณะการหมุน (Revolute Joint) คือแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 2 (ไหล่) ส่วนแกนที่ 3 (ข้อศอก) จะเป็นลักษณะของการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง 

ข้อดี

1. มีปริมาตรการทำงานมากขึ้นเนื่องจากการหมุนของแกนที่ 2 (ไหล่)
2. สามารถที่จะก้มลงมาจับชิ้นงานบนพื้นได้สะดวก


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) และส่วนประกอบ ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมมีความซับซ้อนขึ้น


การประยุกต์ใช้งาน

ใช้ในงานที่มีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (Vertical) เพียงเล็กน้อย เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าออกจากเครื่องปั้ม (Press) หรืออาจจะใช้งานเชื่อมจุด (Spot Welding)

 

 à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์


4. SCARA Robot จะมีลักษณะแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) หมุนรอบแกนแนวตั้ง และแกนที่ 2 จะเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ขึ้นลง (Prismatic) ซึ่งหุ่นยนต์ SCARA จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วในแนวระนาบ และมีความแม่นยำสูง

ข้อดี

1. สามารถเคลื่อนที่ในแนวระนาบ และขึ้นลงได้รวดเร็ว
2. มีความแม่นยำสูง


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. ไม่สามารถหมุน (rotation)ในลักษณะมุมต่างๆได้
3. สามารถยกน้ำหนัก (Payload) ได้ไม่มากนัก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากการเคลื่อนที่ในแนวระนาบและขึ้นลงได้รวดเร็วจึงเหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องการความรวดเร็วและการเคลื่อนที่ก็ไม่ต้องการการหมุนมากนัก แต่จะไม่เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางกล (Mechanical Part) ซึ่งส่วนใหญ่การประกอบจะอาศัยการหมุน (Rotation)ในลักษณะมุมต่างๆ นอกจากนี้ SCARA Robot ยังเหมาะกับงานตรวจสอบ (Inspection) งานบรรจุภัณฑ์ (Packaging)

5. Articulated Arm ทุกแกนการเคลื่อนที่จะเป็นแบบหมุน (Revolute) รูปแบบการเคลื่อนที่จะคล้ายกับแขนคน ซึ่งจะประกอบด้วยช่วงเอว ท่อนแขนบน ท่อนแขนล่าง ข้อมือ การเคลื่อนที่ทำให้ได้พื้นที่การทำงาน 

ข้อดี

1. เนื่องจากทุกแกนจะเคลื่อนที่ในลักษณะ ของการหมุนทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเข้าไปยังจุดต่างๆ
2. บริเวณข้อต่อ (Joint) สามารถ Seal เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น หรือน้ำ ได้ง่าย
3. มีพื้นที่การทำงานมาก
4. สามารถเข้าถึงชิ้นงานทั้งจากด้านบน ด้านล่าง
5. เหมาะกับการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นชุดขับเคลื่อน


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด เครื่องประกอบชิ้นงาน (Coordinate) ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมทำความ เข้าใจได้ยากขึ้น
3. ควบคุมให้เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Linear) ได้ยาก
4.โครงสร้างไม่มั่นคงตลอดช่วงการเคลื่อนที่ เพราะบริเวณขอบ Work Envelope ปลายแขนจะ
5. มีการสั่น ทำให้ความแม่ยำลดลง


การประยุกต์ใช้งาน

หุ่นยนต์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้กว้างขวางเพราะสามารถเข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ได้ดี เช่น งานเชื่อม Spot Welding, Path Welding, งานยกของ, งานตัด, งานทากาว, งานที่มีการเคลื่อนที่ยากๆ เช่น งานพ่นสี งาน Sealing ฯลฯ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Industrial Robot นั้นมีหลากหลายประเภท แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีประโยชน์เหมือนกัน คือ สามารถช่วยทุ่นแรงในการทำงานต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เช่น งานยกสินค้าจากสายงานการผลิต งานประกอบ งานเชื่อม งานตัด เป็นต้น

 

บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด


       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เช่น เครื่องประกอบชิ้นงาน แขนกลหุ่นยนต์ เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ เครื่องตรวจสอบและทดสอบชิ้นงาน เครื่องประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติทุกชนิด โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยลูกค้าตัดสินในเรื่องการลงทุน ด้านออโตเมชั้น การติดตั้ง การฝึกอบรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง มีอะไหล่ให้เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
---------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาทำความรู้จัก บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด
รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ สุดยอดตัวช่วยสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ตอบโจทย์การประกอบชิ้นงานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วย “เครื่องประกอบชิ้นงาน” เทคโนโลยีสุดล้ำ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

ติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานอย่างไรให้อุ่นใจถูกตามหลักวิศวกร

การติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานอย่างถูกวิธี

 

ติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงาน   à¸•à¸´à¸”ตั้งระบบไฟฟ้า

 

            หลักการที่สำคัญของการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงาน เริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบระบบงานไฟฟ้า ศึกษาชนิดอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานของพื้นที่ในโรงงาน การติดตั้งระบบไฟฟ้าในแต่ละครั้ง จำเป็นต้องมีการวางแผนงานก่อนวางระบบทุกครั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และถูกต้องตามหลักวิศวกรอย่างเป็นมาตรฐาน รับปรับปรุงระบบไฟฟ้าโรงงาน รวมไปถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเอง
สำหรับระบบไฟฟ้าภาคโรงงานอุตสาหกรรมแต่ละที่ จะมีการออกแบบระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาดของโรงงาน, กระบวนการผลิต, กำลังไฟที่ต้องใช้ในการผลิต เป็นต้น โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยระบบไฟฟ้าในโรงงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดอันตรายจากระบบไฟฟ้า

 

เราสามารถป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ด้วยวิธีการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานได้ ดังต่อไปนี้

 

•  à¸à¹ˆà¸­à¸™à¸à¸²à¸£à¸•à¸´à¸”ตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานต้องมีแบบแปลนที่แสดงการติดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงานตามความเป็นจริง
•  à¹€à¸¥à¸·à¸­à¸à¹ƒà¸Šà¹‰à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย
•  à¸•à¸´à¸”ตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามมาตรฐานของการไฟฟ้า
•  à¸¡à¸µà¸à¸²à¸£à¸•à¸£à¸§à¸ˆà¸ªà¸­à¸šà¸£à¸°à¸šà¸šà¹„ฟฟ้าในโรงงานและรับรอง ความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในโรงงานเป็นประจำทุกปี
•  à¸à¸²à¸£à¸•à¸´à¸”ตั้งในแต่ละครั้ง ควรเลือกช่างไฟฟ้า หรือบริษัทรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าที่มีความชำนาญในด้านนี้เป็นพิเศษ

 

            ดังนั้นการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรมในแต่พื้นที่จะมีการออกแบบระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกันซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน กระบวนการผลิต กำลังไฟที่ต้องใช้ในการผลิต ทุน เป็นต้น 

 

 เทคนิคอล ซีสเต็ม เอ็นจิเนียริ่ง

 

             à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— เทคนิคอล ซีสเต็ม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด à¹€à¸£à¸²à¸„ือ ผู้ให้การบริการ รับเหมาออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานทั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ระบบไฟแรงต่ำ รับซ่อมแซมระบบไฟฟ้า วางระบบไฟฟ้า à¸•à¸£à¸§à¸ˆà¹€à¸Šà¹‡à¸„ระบบไฟฟ้า ดำเนินการบริหารและจัดการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญตามมาตรฐานวิศวกรรมอย่างถูกต้อง การให้บริการรวดเร็ว ดูแลการบริการอย่างดี ตั้งแต่ก่อนการทำงานจนหลักการทำงาน มุ่งเน้นการทำงานที่มีคุณภาพ และพัฒนาระบบการบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้องมีระบบดับเพลิง ?
รับออกแบบและติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า
โรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องติดตั้งระบบวิศวกรรมด้านใดบ้าง 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15